Questions? +1 (202) 335-3939 Login
Trusted News Since 1995
A service for energy industry professionals · Saturday, July 26, 2025 · 834,189,640 Articles · 3+ Million Readers

การจำกัดอุปทานน้ำมันยังคงดำเนินต่อ: ทำไมกลยุทธ์ทรงพลังของตลาดพลังงานอาจเปลี่ยนทิศทางเงินเฟ้อและนโยบายธนาคารกลาง

ภาพแบ่งสองฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นอาคารธนาคารกลางสีเทา ฝั่งขวาเป็นแท่นขุดเจาะน้ำมันเรืองรองในยามพระอาทิตย์ตก พร้อมกราฟราคาน้ำมันเบา ๆ สะท้อนความผันผวนล่าสุด — โดย EBC

พลังงานกับเศรษฐกิจ — เมื่อราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลง EBC Financial Group วิเคราะห์ว่าการเคลื่อนไหวของสินค้าโภคภัณฑ์กำลังส่งผลต่อแนวคิดของธนาคารกลางอย่างไร

EBC Financial Group วิเคราะห์การคุมอุปทานระยะยาว หนุนราคาน้ำมันโลกสูงต่อเนื่อง กระทบเงินเฟ้อ-คาดการณ์ดอกเบี้ย-กระแสเงินทุนโลก

DC, UNITED STATES, July 25, 2025 /EINPresswire.com/ -- ในขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน แรงกดดันอีกด้านหนึ่งกลับทำงานสวนทาง นั่นคือการจำกัดอุปทานน้ำมัน ผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ยังคงมาตรการลดกำลังการผลิตด้วยความสมัครใจไปจนถึงสิ้นปี 2025 แม้อุปสงค์จะเพิ่มขึ้นและปริมาณสำรองยังคงตึงตัว

กลยุทธ์การควบคุมอุปทานอย่างมีวินัยนี้ได้สร้างราคาพื้นฐาน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายใกล้ระดับ 68.39 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลง 1.2% หลังการคว่ำบาตรล่าสุดของสหภาพยุโรป สะท้อนว่าตลาดยังไม่คาดว่าจะมีการหยุดชะงักด้านอุปทานครั้งใหญ่ แม้ความผันผวนล่าสุดจะสะท้อนการขายทำกำไรระยะสั้นและความกังวลทางการค้า แต่การคาดการณ์จาก Goldman Sachs และ IEA ชี้ว่าราคาน้ำมันอาจฟื้นตัวได้เมื่ออุปสงค์กลับมาแข็งแกร่งในช่วงปลายปี 2025

เรากำลังอยู่ในโลกที่การตัดสินใจเกี่ยวกับอุปทานสินค้าโภคภัณฑ์สามารถทัดเทียมหรือแม้กระทั่งมีอิทธิพลเหนือธนาคารกลางได้” เดวิด บาร์เร็ตต์ ซีอีโอของ EBC Financial Group (UK) Ltd. กล่าวว่า “หากมองข้ามพลวัตเหล่านี้ อาจนำไปสู่การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ทั้งระบบผิดพลาด ตั้งแต่ค่าเงิน พันธบัตร ไปจนถึงสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับเงินเฟ้อ

การวิเคราะห์อุปสงค์ล่าสุดชี้ว่าการคาดการณ์ของโอเปกและ IEA สำหรับปี 2025 อาจมองโลกในแง่ร้ายเกินไป แม้จะคาดว่าอุปสงค์จะเติบโตเพียง 700,000–1.29 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 แต่นำเข้าน้ำมันดิบของเอเชียกลับเพิ่มขึ้นราว 510,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ขณะเดียวกัน IEA เตือนว่าการคาดการณ์ปัจจุบันอาจประเมินอุปสงค์จริงต่ำเกินไป เนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศและกิจกรรมอุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังฟื้นตัว

พลังงานและอาหารจุดชนวนวิกฤตการเงิน

แม้การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของราคาน้ำมันก็มีความสำคัญ ต้นทุนการขนส่งและอาหารกำลังเพิ่มขึ้นในประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเป็นหลัก1 ในยุโรปซึ่งธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพิ่งเริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 เงินเฟ้อด้านพลังงานที่ยืดเยื้ออาจทำให้การผ่อนคลายนโยบายในอนาคตล่าช้าออกไป ในสหรัฐอเมริกา ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทรงตัวในระดับสูงอาจซ้ำเติมการตัดสินใจเชิงนโยบายที่เชื่อมโยงกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และความกังวลด้านการค้า

ธนาคารกลางในประเทศอย่างอินเดีย ไทย และฟิลิปปินส์ ซึ่งอัตราเงินเฟ้อลดความร้อนแรงลงแล้วแต่ยังเปราะบาง อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป เนื่องจากต้นทุนพลังงานนำเข้ายังคงอยู่ในระดับสูง

ผู้ชนะ ผู้แพ้ และสัญญาณจากตลาด

ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่มีเสถียรภาพทางการคลังแข็งแกร่งได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูง ช่วยปรับปรุงเงื่อนไขการค้าและเพิ่มรายได้ ขณะที่ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันต้องเผชิญกับค่าเงินที่อ่อนค่าลง การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขยายตัว และความผันผวนของเงินเฟ้อที่กลับมาอีกครั้ง

ในตลาดการเงินโลก ความคาดหวังเงินเฟ้อ (breakeven inflation) ในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง โดยค่า breakeven 5 ปี ปรับขึ้นสู่ระดับราว 2.5% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบหลายเดือน ตลาดสกุลเงินก็มีการตอบสนองเช่นกัน โดยค่าเงินที่เชื่อมโยงกับน้ำมัน เช่น ดอลลาร์แคนาดา (แข็งขึ้น 0.3% ในเดือนมิถุนายน) และโครนนอร์เวย์ มีผลงานดีกว่าสกุลเงินอื่น นักลงทุนเริ่มหันกลับมาลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานมากขึ้น จากการคาดการณ์อุปสงค์ที่เปลี่ยนแปลงไปและความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในตลาดน้ำมัน

กลยุทธ์รับมือเงินเฟ้อจากน้ำมัน: คู่มือสำหรับนักเทรด

สำหรับนักเทรด ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ถือเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากน้ำมันยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนความคาดหวังเงินเฟ้อ ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบสามารถส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังตลาดเงินตรา พันธบัตร และตลาดหุ้น การติดตามค่าเงินที่เชื่อมโยงกับน้ำมัน เช่น ดอลลาร์แคนาดา (CAD) และโครนนอร์เวย์ (NOK) จะช่วยให้เห็นทิศทางความเชื่อมั่นด้านพลังงานได้ชัดขึ้น ขณะเดียวกัน สินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับเงินเฟ้อ เช่น พันธบัตร TIPS หรือกองทุน ETF สินค้าโภคภัณฑ์ กำลังกลายเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่น่าสนใจมากขึ้น

การที่อัตรา breakeven ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น สะท้อนว่าตลาดกำลังประเมินความเสี่ยงเงินเฟ้อระยะยาวใหม่อีกครั้ง ทำให้การวางกลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ยและการจัดการ duration ยิ่งมีความสำคัญ ในภาวะที่ธนาคารกลางทั่วโลกต้องเดินเกมระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและแรงกดดันเงินเฟ้อ นักเทรดที่ติดตามทั้งกระแสสินค้าพลังงานและทิศทางนโยบายการเงินที่แตกต่างกัน จะมีโอกาสคาดการณ์การพลิกตัวของตลาดได้แม่นยำขึ้น และหลีกเลี่ยงการติดกับดักภายใต้ยุคพลังงาน “สูงนาน” ได้อย่างทันท่วงที

หากต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.ebc.com

คำชี้แจง: บทความนี้สะท้อนถึงข้อสังเกตของ EBC Financial Group และบริษัทในเครือทั่วโลกทั้งหมด ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุนใดๆ การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราแลกเปลี่ยน (FX) มีความเสี่ยงสูง อาจขาดทุนเกินกว่าจำนวนเงินลงทุนเริ่มต้นได้ ขอให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่มีคุณวุฒิก่อนตัดสินใจซื้อขายหรือทำการลงทุนใดๆ ทั้งนี้ EBC Financial Group และบริษัทในเครือจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้เป็นหลักในการตัดสินใจ

### 

เกี่ยวกับ EBC Financial Group

ก่อตั้งขึ้นในเขตการเงินชั้นนำของกรุงลอนดอน EBC Financial Group (EBC) เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และการจัดการสินทรัพย์ ผ่านบริษัทในเครือที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในเขตอำนาจทางการเงินหลักต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หมู่เกาะเคย์แมน มอริเชียส และประเทศอื่นๆ EBC เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อย นักลงทุนมืออาชีพ และสถาบัน สามารถเข้าถึงตลาดโลกและโอกาสการซื้อขายได้อย่างหลากหลาย ทั้งในตลาดสกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และดัชนีต่างๆ

ได้รับการยอมรับด้วยรางวัลมากมาย EBC มุ่งมั่นยึดถือมาตรฐานจริยธรรมสูงสุด และบริษัทในเครือต่างๆ ดำเนินธุรกิจภายใต้ใบอนุญาตและการกำกับดูแลตามกฎหมายในแต่ละประเทศ โดย EBC Financial Group (UK) Limited อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Financial Conduct Authority (FCA) สหราชอาณาจักร EBC Financial Group (Cayman) Limited อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Cayman Islands Monetary Authority (CIMA) ส่วน EBC Financial Group (Australia) Pty Ltd และ EBC Asset Management Pty Ltd อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Australian Securities and Investments Commission (ASIC) และ EBC Financial (MU) Ltd ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Financial Services Commission Mauritius (FSC)

หัวใจสำคัญของ EBC คือทีมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการเงินที่มีประสบการณ์กว่า 40 ปีในสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจสำคัญมาแล้วหลายรอบ ตั้งแต่ Plaza Accord วิกฤตฟรังก์สวิสในปี 2015 จนถึงความปั่นป่วนของตลาดในช่วงการระบาดของโควิด-19 EBC สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ความเคารพ และการคุ้มครองสินทรัพย์ลูกค้าอย่างสูงสุด เพื่อให้ความสัมพันธ์กับนักลงทุนทุกคนได้รับการดูแลอย่างจริงจังที่สุด

ในฐานะพันธมิตรด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา EBC ให้บริการเฉพาะทางครอบคลุมทั้งเอเชีย ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา และโอเชียเนีย อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในโครงการด้านสาธารณสุขระดับโลกผ่านความร่วมมือกับ United to Beat Malaria และสนับสนุนโครงการ 'What Economists Really Do' ของภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของสาธารณชนเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์และบทบาทของเศรษฐศาสตร์ต่อความท้าทายทางสังคมที่สำคัญ

https://www.ebc.com/

Michelle Siow
EBC Financial Group
michelle.siow@ebc.com
Visit us on social media:
LinkedIn
Instagram
Facebook
YouTube
X
Other

Powered by EIN Presswire

Distribution channels: Banking, Finance & Investment Industry, Business & Economy, Energy Industry, Mining Industry, World & Regional

Legal Disclaimer:

EIN Presswire provides this news content "as is" without warranty of any kind. We do not accept any responsibility or liability for the accuracy, content, images, videos, licenses, completeness, legality, or reliability of the information contained in this article. If you have any complaints or copyright issues related to this article, kindly contact the author above.

Submit your press release